ประวัติ Forex กับ กฎหมายไทย

  • on Saturday, July 27, 2013
  • หลายท่านคงทราบดีอยู่แล้วว่า Forex ในต่างประเทศมีมานานแล้ว และถูกกฏหมาย(ของต่างประเทศ) ซึ่งตลาดตรงนี้ใหญ่มาก และถือเป็นแหล่งลงทุนของนักลงทุนที่แท้จริง (ระดับสูงกว่าการเล่นหุ้น) แต่ทำไมไม่ทราบ ประเทศไทยกลับกลายเป็นว่าการลงทุนในด้าน Forex ผิดกฏหมาย ??


              Forex ถือมีความจำเป็นยิ่งในประเทศไทย มีผู้ที่ให้บริการและที่ใช้บริการได้แบบไม่ผิดกฏหมายอยู่ ก็คือ พวกสถาบันการเงิน ธนาคารต่างๆ นั่นเอง ทำไมถึงจำกัดวงแคบ แค่นี้ ? ทั้งๆ ที่หากคุณศึกษาดูจะเห็นว่า ธนาคารต่างๆ ได้กำไรจาก Forex มากมายจริงๆ แต่ไม่อนุญาติให้บุคคลธรรมดา ทำการแลกเปลี่ยนแบบนี้ ? นายแบงค์ระดับสูงบางคน Trade Forex เพื่อธนาคารของตนเองอย่างถูกกฏหมาย แม้กระทั่งผู้ว่าการธนาคารบางคน ยังเป็นประธานชมรม Forex แห่งประเทศไทยได้เลย (อย่างถูกต้องตามกฏหมาย) แต่ใครจะรู้ว่าบุคคลเหล่านี้อาจจะมีผลประโยชน์ทางอ้อม หรือ ทางตรง เค้าได้ Trade เองด้วยหรือไม่? Forex อนุญาติให้แค่คนกลุ่มเล็กๆ ในไทยเท่านั้นที่ทำได้!
           

              Forex จริงๆ แล้วทำเสียอยู่ช่วงหนึ่งเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ได้มีพวกกลุ่มแชร์ลูกโซ่ ทำการเปิดบริษัท Forex บังหน้า แต่ว่าทางการเงินจริงๆ แล้ว ไม่ได้ Trade จริงๆ แต่หลอกให้ คนโอนเงินมาไว้กับตนเยอะๆ เอาเงินคนเสียมาจ่ายคนได้ ซึ่งโดยรวมแล้วจะมีคนได้น้อยกว่าคนเสีย ทำให้บริษัทอยู่ได้ แต่พอนานๆ เข้า คนได้มีมากกว่าหรือ อาจจะเพราะบริษัทต้องการปิดหนีเลยไม่จ่าย ตรงนี้ไม่ทราบ!แต่ที่แน่ๆ คนเดือดร้อน คือประชาชนที่ลงเงินลงทุนไปแล้ว ไม่สามารถตามเงินคืนได้


              ความ เสียหายนี้เกิดเป็นวงกว้างหลายพันล้านบาท จึงทำให้รัฐต้องออกกฏหมายเพื่อระงับแชร์ลูกโซ่ประเภทนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ Forex บังหน้า ผลก็คือ ตั้งแต่นั้นมา Forex เลยถูกห้าม เพราะจะคิดว่าเป็นการหลอกลวงมาตลอด จนถึงปัจจุบัน (ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ แต่ถูกนำมาเป็นเครื่องมือของแชร์ลูกโซ่เฉยๆ) ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็เลยห้ามมาตลอด ผมกลับคิดว่า ตอนมีแชร์ข้าวสาร ทำไมไม่ห้ามซื้อขายข้าวสารล่ะ ?? จะได้เข้าใจว่า Forex ไม่ได้ผิดอะไร การไม่เปิดให้บริการทำให้ระบบการเงินของประเทศไม่มีความหลากหลายอีกด้วยซ้ำ
      

              ซ้ำ ร้าย นับแต่นั้นเรื่อยมา กลุ่มปราบปรามการเงินนอกระบบ จึงตั้งหน้าตั้งตาม ปิดบริษัท Forex ในเมืองไทยมาตลอด โดยจะห้ามเด็ดขาดและหากจับได้ก็จะใช้ พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 เป็นบทลงโทษ (ดูซิครับ!ขนาดกฏหมายที่ห้าม ยังดูไม่ค่อยออกเลยว่ามันผิดที่ Forex หรือคนที่นำไปเป็นเครื่องมือ) จนปัจจุบันเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตดีขึ้น คนที่หาข้อมูลหา ธุรกิจ จะทราบดีแล้วว่า
      

              Forex เป็นเรื่องทั่วไป เป็นปกติของตลาดโลก (แต่ลองถาม ชาวบ้านทั่วๆ ไป เค้าจะเข้าใจว่าเป็นสิ่งหลอกลวงแทน) ตอนนี้ใครจะเล่นก็ได้ครับ เพราะเล่นกับผู้ให้บริการที่ถูกกฏหมาย(ของต่างประเทศ) แทนแล้ว ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ก็คือ คุณเล่นการพนันผิดกฏหมายในไทย แต่ถ้าคุณไปเล่นลาสเวกัสมันก็ไม่ผิดอะไร แน่นอนปัจจุบันรัฐก็พยายามเต็มที่อย่างไม่ลืมหูลืมตาจับคนให้บริการ Forex หรือ คนเล่นมาลงโทษไม่ได้ ผมเลยอยากจะเตือนใจคนเล่น Forex จุดนี้ไว้

      

              คุณ รู้ไหม รัฐเคยออกข่าวด้วยนะครับว่า มีคนไทยเปิดบริษัทหลอกลวงให้บริการ Forex โดยใช้เว็บไซต์เป็นสื่อกลางชื่อว่า Northfinance แล้วคิดดูครับว่า เค้าหลับหูหลับตาทำขนาดไหน..?
      
           
              ตอน นี้ รัฐพอจะทราบแล้วครับว่าแนวโน้มต่อไปไม่ใช่บริษัทหลอกลวงในไทยแล้วครับ แต่เป็นว่าการเข้าถึงบริษัท Forex ในต่างประเทศจริงๆ นั้น ทำได้ง่ายขึ้นในวันนี้เพราะมี Internet แน่นอน เค้ายังไม่ยอมแพ้ครับ เลยออกกฏมาเพิ่มเติม ดังนี้
      
              1. กรณีผู้ให้บริการอยู่ในประเทศไทย การทำธุรกรรมดังกล่าวโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีความผิดตามกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน
      
              2. กรณีผู้ให้บริการดังกล่าวอยู่ต่างประเทศ เมื่อบุคคลในประเทศต้องโอนเงินออกไปเพื่อชำระหนี้ตามธุรกรรมซื้อขายแลก เปลี่ยนเงิน จะไม่ได้รับอนุญาตให้โอนเงินออก และมีความผิดตามกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน
      
              คำ ว่าผู้ให้บริการ ที่เราๆ เข้าใจกันก็คือ Broker นะครับ ถ้าเล่นผ่านเน็ตส่วนใหญ่ข้อ 1 ก็ตัดทิ้งไปได้เลย แต่ข้อ 2 ผมแนะให้สมาชิกทราบกันนิด เค้าอาจจะเอาผิดคุณได้ ถ้ามีหลักฐานว่าคุณเล่น Forex ที่ต่างประเทศ โดยหลักฐานที่ว่าน่าจะเป็น การโอนเงินให้กับ Broker โดยตรง เช่น การไปโอนที่ธนาคาร หรือ การตัดบัตรเครดิต หรือการโอนเงินกลับมาในประเทศจาก Broker ตัดโดยตรง


              ดู ซิครับ! เค้าจะเล่นงานคุณขนาดไหน แต่วันนี้ คุณยังไม่ต้องกลัวนะครับถ้ายังไม่ได้ทำธุรกรรมกับการเงินกับทาง Broker โดยตรง เพราะหากเป็นแค่การใช้งานโปรแกรมจริงๆ แล้วไม่มีหลักฐานทางการเงิน ก็เหมือนกับคุณเล่นเกมส์ Poker เงินปลอมเท่านั้นเอง ไม่ผิดอะไร เป็นแค่ความบันเทิงใจของเรา
      

              ผม ไม่ใช่พวกต่อต้านกฏหมายนะครับ คิดว่ากฏหมายการฟอกเงิน กฏหมายเกี่ยวกับ กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ต้องบอกว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่จริงๆ แล้ว ไม่ควรเหมารวมเอา Forex เป็นเครื่องมือ และน่าจะเปิดเสรีด้านนี้ไปได้แล้ว จะได้เจริญตามต่างประเทศที่เค้ามี Forex ถูกกฏหมายกันซะที ประเทศที่ไม่มีอะไรเลย เช่น สิงค์โปร ฮ่องกง ทำตัวเป็น Broker อย่างเดียวก็รวยกว่าเราแล้ว ทำไมเราทำให้ดีได้กลับไม่ทำแถมห้ามอีก   จากคนเคยโดยรัฐเล่นงาน

      
              อัน นี้ครับ! จะเห็นว่าทำไมกองทุน กบข.กลับ Trade ได้ ประชาชนทั่วไปห้ามทำ! แทนที่จะสนับสนุนคนไทยไปลงทุนต่างประเทศบ้าง แต่กลับห้ามด้วยซ้ำ..!



              สนับ สนุนไม่ให้คุณถูกหลอกนะครับ ข่าวบางอย่างก็ถูกต้องและควรรับฟังอย่างยิ่ง และสนับสนุนให้คุณไม่ทำผิดกฏหมายด้วยนะครับ กฏเค้าออกอะไรมา เลี่ยงได้ก็อย่าไปฝืนกฏนะครับ แต่ถ้าไม่ผิดกฏและคิดว่าไม่ถูกหลอกก็ทำไปได้เลยครับ เดี๋ยวอนาคตรัฐคงเข้าใจเอง

    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-557/?/

    เทคนิคการเทรด Forex สำหรับผู้เริ่มต้น

  • on
  • ตลาด forex ได้เปิดกว้างสำหรับบุคคลทั่วไป มาหลายปีแล้ว, มีนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาในลงทุนในตลาดเพิ่มขึ้น ทุก ๆ เดือน โดยแต่ละคนก็หวังที่จะเข้ามาทำกำไร และเป็นเศรษฐี จากตลาด forex แต่ผลที่ได้ของนักลงทุนแต่ละคนนั้น ก็แตกต่างกันไป

    การเทรดสำหรับ ผู้เริ่มต้น นั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่ซับซ้อนเลย ในความเป็นจริง คุณอาจจะช๊อกก็ได้ เมื่อผมจะบอกว่า นักลงทุนบางคนที่ผมรู้จักได้เข้ามาลงทุนในตลาด forex จนกลายเป็นเศรษฐี!

    สิ่ง แรกที่คุณ ควรจะเริ่ม นั้นคือ ขอเปิดพอร์ต forex แบบออนไลน์ จากนั้นคุณจะสามารถเข้าไปเทรดจากที่ไหนของโลกก็ได้ อย่าเพิ่งเลือกโบรคเกอร์แรกที่คุณพบ หาตัวเลือกจากหลายๆที่ แล้วลองชั่งน้ำหนัก ข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละที่ ก่อนจะตัดสินใจ โดยทัวไปแล้ว โบรคเกอร์ส่วนใหญ่ อนุญาติเปิดบัญชีขนาดเล็ก ซื้งนั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น คุณสามารถฝากเงิน โดยใช้เงินเพียงแค่ $100 สำหรับการเริ่มต้น ด้วยระบบ Leverage ซึ่งจะทำให้คุณเปรียบเสมือนมีทุนในการลงทุนมากขึ้นอย่างน้อย 100 เท่า ของทุนจริงที่คุณมี นั้นก็คือ คุณสามารถควบคุมทุน $10,000 จากเงินทุนจริง $100 ของคุณได้

    แต่ละโบรคเกอร์ จะมีโปรแกรมซึ่งแสดงกราฟราคา พร้อม indicator ให้เราได้ใช้ เราไม่จำเป็นต้องใช้ indicator ทั้งหมดที่โบรคเกอร์มีให้เพราะมันจะทำให้เราสับสน เราควรทำให้มันเรียบง่าย และเข้าใจง่ายที่สุด!

    การตั้งและปรับค่าต่างๆ รวมถึงการทำความคุ้นเคยกับระบบของโบรคเกอร์ในบัญชีของคุณ ควรใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน

    ระบบการเทรดนั้น เรียบง่าย ผมจะอธิบาย ระบบง่าย ๆ ซึ่งสามารถทำกำไรได้มาก และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเข้ามาเทรดในตลาด forex

    เริ่มแรก คุณต้องเลือก คู่สกุลเงินที่คุณต้องการเทรดก่อน จากนั้นคอยเรียนรู้ว่ามันเคลื่อนไหวอย่างไร (ตรงนี้ต้องใช้เวลา)

    ดู กราฟแบบ 4 ชั่วโมง จากซูมออกมาจนกว่าจะเห็นช่วงเวลาได้ 2 เดือน ถ้ากราฟ เริ่มจากด้านล่าง และไต่ขึ้นบน นั้นหมายถึงเป็นขาขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้ากราฟเริ่มจากด้านบน และไต่ลงล่าง นั้นแสดงถึงขาลง

    เราเทรดโดยดู จากแนวโน้ม ดูการเคลื่อนไหวของราคาว่ามัน เคลื่อนไหวไปทางเดียวกับแนวโน้มหรือไม่ ถ้าเคลื่อนไหวในทางเดียวกัน ใช้ระดับราคาที่ 50% ของแนวกลาง แนวรับ แนวต้าน ของราคา เป็นตัวประกอบการตัดสินใจเลือกจังหวะเข้าเทรด

    เข้าเทรดเมื่อระดับ ราคาเหมาะสม โดยตั้งจุด cut-loss ไว้ที่ จุด ในการเข้าเทรดแต่ละครั้งอย่าเสี่ยงเข้าเทรดโดยใช้ทุนมากกว่า 3% ของบัญชีทั้งหมด

    ตรงนี้เป้นจุดสำคัญ สำหรับความสำเร็จของคุณ! เมื่อคุณได้กำไร 100pip เพิ่มทุนเข้าไปครึ่งหนึ่งของการเทรดครั้งแรก คอยเฝ้าดูแนวโน้ม และเพิ่มทุนเข้าไป ทุก ๆ 50 pipsที่เพิ่มขึ้น จากกำไรที่เพิ่มมากขึ้น อย่าเพิ่งปิดการเทรด จนกว่าคุณจะมีเหตุผลที่บ่งชี้ชัดว่า เทรนนี้ ได้จบลงแล้ว

    ในการเข้า เทรดครั้งแรกคุณจะไม่ได้ราคาที่วิ่งดีถึง 100 pips ทุกครั้ง แต่มันจะเกิดขึ้นอย่างน้อยเดือนละครั้ง และเมือคุณทำมันได้ คุณจะเห็นถึงประสิทธิภาพของระบบง่าย ๆ นี้ ในกรณีที่ราคาไม่สามารถขึ้นไปถึง 50 pip ได้ คุณก็ควรจะหยุดการเทรด และได้กำไรเล็กน้อย

    นี้คือทั้งหมด เรียบง่าย แต่ใช้ได้ดี ได้ผลจริง และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เข้ามาเทรดในตลาด forex

    บทความต้นฉบัย
    forex Currency Trading For The Beginner, Learn To Trade forex Profitably In 1 Weekend Or Less!
    โดย ดีน แซนเดอร์ (Dean Saunders)


    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-556/?/

    ทฤษฎีดาวถูกคิดค้นขึ้นโดยนายชาร์ลส์ เอช ดาว (Charles H. Dow) หรือบิดาแห่งการวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • on
  • ทฤษฎีดาวถูกคิดค้นขึ้นโดยนายชาร์ลส์ เอช ดาว (Charles H. Dow) ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งการวิเคราะห์ทางเทคนิค เมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว แต่กฏ และหลักการของดาว ยังคงใช้ได้ตราบจนถึงปัจจุบัน หลักการนี้มิได้พูดถึงเพียงการวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือ การเคลื่อนที่ของราคาหุ้น แต่สิ่งนี้ถือเป็นปรัญญาของตลาดหุ้น ที่อธิบายถึงพฤติกรรมของตลาดหุ้นที่ยังคงเหมือนเดิม เกิดขึ้นซ้ำๆเฉกเช่นเดียวกัน กับตลาดหุ้นเมื่อ 100ปีที่แล้ว


    ดาว ได้พัฒนา การวิเคราะห์ตลาดหุ้น จนเกิดเป็นทฤษฏีในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนกระทั่งเขาได้เสียชีวิตในปี 1902  ซึ่งเขาเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของ และเป็นบรรณาธิการของ หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal แม้ว่าเขาจะไม่ได้เขียนหนังสือของตัวเองก็ตาม แต่เขาก็ได้เป็นบรรณาธิการให้กับหนังสือ หลายเล่มในการ ให้ความเห็นด้านการเก็งกำไร และ กฎ industrial average
    หลังจากที่ดาว เสียชีวิตแล้ว ก็มี หนังสือที่อธิบายเกี่ยวกับทฎษฎีของเขามากมายเช่น The ABC of Stock Speculation, The Stock Market Barometer เป็นต้น

    ทฤษฎีดาว (Dow Theory)
    ตลาดขาขึ้น – ขั้นที่ 1 – สะสม
    ฮา มิลตัน (Hamilton) กล่าวไว้ว่าในช่วงแรกของตลาดขาขึ้นมักจะไม่แตกต่างจากตลาดในช่วงขาลง เพราะคนส่วนยังมองในแง่ลบและทำให้แรงซื้อยังคงชนะแรงขายในช่วงแรกของขา ขึ้น  ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่ไม่มีใครถือหุ้น  ประกอบกับไม่มีข่าวดี ทำให้ราคาประเมินของหลักทรัพย์ถึงจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์  อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาเช่นนี้เป็นช่วงที่ผู้ที่ลงทุนอย่างฉลาดจะเริ่มสะสมหุ้น  และเป็น ช่วงที่ผู้ที่มีความอดทนและใจเย็นพอที่จะเห็นประโยชน์ของการเก็บหุ้นไว้จน กระทั่งราคาดีดกลับ  บางครั้งหุ้นมีราคาถูก แต่กลับไม่มีใครต้องการ  ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่  วอเรน บัฟเฟท ได้กล่าวไว้ในช่วงฤดูร้อนของปี 1974 ว่าตอนนี้ได้เวลาที่จะซื้อหุ้นแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ ในระยะแรกของตลาดขาขึ้น  ราคาหุ้นจะเริ่มเข้าใกล้จุดต่ำสุด แล้วค่อยๆยกตัวขึ้น เมื่อตลาดเริ่มกลับตัวขึ้น คนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าตลาดกำลังจะปรับตัวขึ้น และเป็นการเริ่มต้นของขาขึ้น  หลังจากตลาดยกตัวสูงขึ้นและดิ่งกลับลงมา  จะ มีแรงขายออกมา เป็นการบอกว่าขาลงยังไม่สิ้นสุด  ในช่วงนี้เองที่จะต้องวิเคราะห์อย่างระมัด ระวังว่าการปรับตัวลงมีนัยยะสำคัญหรือไม่ หากไม่มีนัยยะสำคัญ จุดต่ำสุดของการลงจะยกสูงขึ้นจากจุดต่ำสุดเดิม  สิ่งที่ตามมาคือตลาดจะเริ่ม สะสมตัวและมีการแกว่งตัวน้อย หลังจากนั้นจึงเริ่มปรับตัวสูงขึ้น  และหากราคาเคลื่อนขึ้นเหนือจุดสูงสุด เดิม จะเป็นการยืนยันถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น

    ตลาดขาขึ้น – ขั้นที่ 2 – การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
    ขั้น ที่ 2 มักจะเป็นช่วงที่มีระยะเวลานานที่สุด และมีการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุด  ระยะเวลานี้จะเป็นช่วงที่กิจการต่างๆ เริ่มฟื้นตัว มูลค่าหลักทรัพย์จะเพิ่มขึ้น  รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น  ช่วงนี้จึงถือได้ว่าเป็นช่วงที่สามารถทำกำไร ได้ง่ายที่สุด เพราะมีผู้เข้ามาลงทุนตามแนวโน้มของตลาดมากขึ้น

    ตลาดขาขึ้น – ขั้นที่ 3 – เกินมูลค่า
    ระยะ ที่ 3 ของตลาดขาขึ้น เป็นระยะที่มีการเก็งกำไรมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะตลาดเฟ้อ (ดาวได้คิดทฤษฎีนี้ขึ้นเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน แต่เหตุการณ์เช่นนี้ยังคงเป็นเรื่องที่คุ้นเคยในปัจจุบัน) ในขั้นสุดท้ายนี้ ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในตลาด  ค่าที่ประเมิน สูงเกินไป  และความมั่นใจมีมากเกินปกติ  จึงเป็นช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นส่วน กลับของขั้นที่ 1

    ตลาดขาลง – ขั้นที่ 1 – กระจาย
    เมื่อ การสะสมเป็นขั้นที่ 1 ของขาขึ้น การกระจายก็คือขั้นแรกของขาลง  นักลงทุนที่ฉลาด จะไหวตัวทันว่าธุรกิจต่างๆ ในปัจจุบันไม่ได้ดีอย่างที่เคยคิด และเริ่มขายหุ้นออก   แต่คนอื่นๆยังคงอยู่ในตลาดและยังพอในที่จะซื้อในราคาที่สูง  จึงเป็นการยาก ที่จะบอกว่าตลาดกำลังเข้าสู่ขาลง  อย่างไรก็ตาม จุดนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการกลับตัว เมื่อตลาดปรับตัวลง คนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าตลาดเข้าสู่ขาลง และยังมองตลาดในแง่ดี  ดังนั้นเมื่อตลาดปรับตัวลงพอประมาณ จึงมีแรงซื้อกลับเข้ามาเล็กน้อย  ฮามิลตันกล่าวว่าการกลับตัวขึ้นในช่วงขาลง นี้จะค่อนข้างรวดเร็วและรุนแรง  ดังเช่นที่ฮามิลตันได้วิเคราะห์ไว้เกี่ยว กับการกลับตัวที่ไม่มีนัยยะสำคัญนี้ ว่าส่วนที่ขาดทุนไปจะได้กลับคืนมาในระยะเวลาเพียงไม่กี่วันหรือสัปดาห์  การ เคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนี้เป็นการตอกย้ำว่าขาขึ้นของตลาดยังไม่สิ้น สุด  อย่างไรก็ตาม จะสูงสุดใหม่จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิม และหลังจากนั้น หากราคาทะลุผ่านจุดต่ำสุดเดิม นั่นจะเป็นการยืนยันถึงขั้นที่ 2 ของตลาดขาลง

    ตลาดขาลง – ขั้นที่ 2 – การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
    เช่น เดียวกับตลาดในขาขึ้น ขั้นที่ 2 เป็นขั้นที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคามากที่สุด  ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่แนว โน้มเด่นชัดและกิจการต่างๆเริ่มถดถอย  ประมาณการณ์รายได้และกำไรลดลง หรืออาจถึงขาดทุน   เมื่อผลประกอบการแย่ลง  แรงขายจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ตลาดขาลง – ขั้นที่ 3 – สิ้นหวัง
    ณ จุดสูงสุดของตลาดขาขึ้น ความคาดหวังมีมากจนถึงขั้นมากเกินไป  ในตลาดขาลงขั้นสุดท้าย ความคาดหวังทั้งหมดหายไป   มูลค่าที่ประเมิน ต่ำมาก  แต่ยังคงมีแรงขายอย่างต่อเนื่อง เพราะทุกคนในตลาดพยายามที่จะถอนตัวออก  มีข่าวร้ายเกี่ยวกับธุรกิจ  มุมมอง เศรษฐกิจตกต่ำ จึงไม่มีผู้ใดต้องการซื้อ  ตลาดจะยังคงลดต่ำลงจนกระทั่งข่าวร้ายทั้งหมดได้ ถูกซึมซับแล้ว  เมื่อราคาสะท้อนถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่ดีต่างๆแล้ว  วัฐ จักรก็จะเริ่มต้นอีกครั้ง

    บทสรุปของทฤษฎีดาว
    จุดประสงค์ ของดาวและฮามิลตัน คือ การหาจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม และ สามารถจับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ได้  พวกเขารู้ดีว่าตลาดถูกขับเคลื่อนโดย อารมณ์ของตลาดและการเกิดปฏิกิริยาเกิน (Overreaction) จริงทั้งในด้านบวกและลบ  พวกเขาจึงมุ่งความสนใจไปที่การมองหาแนวโน้มและ เคลื่อนไหวไปตามแนวโน้ม  แนวโน้มจะยังคงอยู่จนกระทั่งสามารถพิสูจน์ได้แน่ ชัดถึงแนวโน้มใหม่ ทฤษฎีดาวช่วยให้นักลงทุนเรียนรู้ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ตั้งข้อสมมติฐานและคาดการณ์ล่วงหน้า  การตั้งข้อสมมติฐานเป็นสิ่งที่ อันตรายสำหรับนักลงทุน  เพราะการคาดเดาตลาดเป็นเรื่องยาก  ฮามิลตันเองยอม รับว่าทฤษฎีดาวนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ  ในขณะที่ทฤษฎีดาวสามารถให้เป็นพื้นฐาน ในการวิเคราะห์  ทฤษฎีนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาแนวทางการ วิเคราะห์ของนักลงทุน การอ่านเกมตลาดเป็นศาสตร์ที่ได้จากประสบการณ์ตรงจากตลาด  ดังนั้นกฎของฮามิ ลตันและดาวจึงมีข้อยกเว้น  พวกเขามีความเชื่อว่าความสำเร็จเกิดจากการศึกษา ที่จริงจังและการวิเคราะห์ที่มีทั้งความสำเร็จและความผิดพลาด  ความสำเร็จ เป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าหลงระเริง  ขณะเดียวกัน ความผิดพลาด ถึงแม้จะเจ็บปวด แต่จะให้บทเรียนที่มีค่า  การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นศิลปะอย่างหนึ่งซึ่ง สามารถพัฒนาได้โดยการฝึกฝน เรียนรู้ทั้งจากความสำเร็จและล้มเหลวด้วยการมองไปข้างหน้า

    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/(charles-h-dow)-604/?/

    ระบบ Financial Leverage ในตลาด Forex

  • on
  • Financial Leverage (FL) แปลตรงตัว คือ การงัดเพื่อให้เกิดแรงมากขึ้นทางการเงิน ในการลงทุนในตลาด Forex ก็คือการที่เรายืมเงินทุนจากโบรคเกอร์ไปลงทุน เพื่อก่อให้เกิดกำไรเพิ่มมากขึ้น โดยปกติค่า Leverage นั้นจะกำหนดโดยโบรคเกอร์ และระบุเป็นสัดส่วนซึ่งก็คือสัดส่วน การลงทุนโดยใช้ทุนของเรา เทียบกับการลงทุนจริงในตลาดโดยยืมทุนจากโบรคเกอร์ ฟังแล้วก็อาจจะงง ๆ มาดูตัวอย่างกันดีกว่าครับ ตัวอย่างแรกกรณีซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์บ้านเราธรรมดา Leverage คือ 1:1 นั้นคือ เราเอาเงินทุนของเราล้วนๆ ไปซื้อหุ้นจริงๆ ธรรมดา หุ้นมีมูลค่าเท่าไหร่ ก็จ่ายจริง ซื้อจริงตามนั้น กำไร หรือขาดทุน ก็คิดจากผลต่างราคาซื้อ กับราคาขาย ตรง ๆ ธรรมดา

    ตัวอย่างที่ 2 ลงทุนในตลาด Forex กับโบรคเกอร์ที่ให้อัตราส่วน Leverage 1:100 (แต่ละโบรคเกอร์อาจให้สัดส่วน Leverage ที่แตกต่างกันไป) นั้นหมายความว่า เราใช้เงินทุนของเราเพียงแค่ 1 หน่วย แต่ทำการสั่งซื้อขายในตลาด 100 หน่วย โดยกำไร หรือขาดทุนที่ได้ นั้นก็คิดจาก 100 หน่วยนั้นที่เรายืมโบรคเกอร์ไปลงทุน เช่น เราใช้เงินทุนของเรา 1 USD ซื้อ THB ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยน 34.00 บาท ต่อ 1 ดอลลาห์ี่ Leverage 1:100 จะเปรียบเสมือนเราส่งคำสั่งซื้อ THB เข้าไปในตลาดด้วยจำนวนเงิน 100 USD ซึ่งจะทำให้เราได้ THB 3400 บาท เมื่ออัตราแลกเปลี่ยน USD/THB เปลี่ยนแปลงโดยเงิน THB แข็งค่าขึ้นจาก 34.00 บาท เป็น 33.80 บาท และเราสั่งปิดออร์เดอร์ ที่ 33.80 บาท ต่อ 1 ดอลลาห์ เมื่อแปลงกลับที่อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในขณะนั้น เราจะได้ USD กลับมา 3400/33.8 = 100.59 USD ในส่วน 100 USD ที่เรายืมโบรคเกอร์มา ก็ต้องคืนไป ส่วนกำไรของเราคือผลต่างที่ได้จากการเทรดรอบนี้ซึ่งก็คือ 100.59-100 = 0.59$ จะเห็นเลยใช่ไหม๊ครับ ว่าแค่เงินบาทแข็งขึ้น 20 สตางค์ เราได้กำไรถึง 0.59 USD จากการลงทุนเพียงแค่ 1 USD ซึ่งนั้นก็คือกำไร 59% เลยทีเดียว!!

    ใน ทางกลับกัน ถ้าเงินบาทอ่อนลงมาที่ 34.40 บาท เมื่อแปลงกลับมาเป็น USD จะเหลือ USD มูลค่าในตลาดเพียง 3400/34.40 = 98.84 USD หรือติดลบ 98.84-100 = -1.16 USD ซึ่ง จำนวนเงินตรงนี้ โบรคเกอร์จะหักเงินในพอร์ตของเราจากส่วนที่ว่าง และไม่ได้ใช้เทรด (Available Margin) ตรงนี้จะเห็นได้ว่าการเทรดแบบระบบ Leverage นั้น เราจะสั่งซื้อขาย โดยใช้เงินทั้งหมดในพอร์ตไม่ได้ เราต้องเหลือเงินจำนวนหนึ่งไว้เพื่อเป็น Margin ให้กับทางโบรคเกอร์ ถ้าเราเปิดออร์เดอร์อยู่ แล้วเกิดการขาดทุนจน Available Margin เป็น 0 ระบบจะปิดออเดอร์อัตโนมัติทันที และเราต้องจ่ายส่วนที่ขาดทุนทั้งหมดจาก Available Margin ทั้งหมด เพื่อคืนเงินที่เรายืมมาจากโบรคเกอร์ให้ครบ

    สัด ส่วน Leverage ของแต่ละโบรคเกอร์นั้น จะแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 1:100 ไปจนถึง 1:500 บางโบรคเกอร์เราสามารถกำหนด Leverage ได้เอง บางโบรคเกอร์ก็ตั้งไว้ตายตัว ดังนั้นก่อนจะสมัครเปิดพอร์ต Forex กับโบรกเกอร์ได้ก็ตาม ควรตรวจสอบ Leverage ของโบรคเกอร์นั้น ๆ ให้ดี และเลือกให้เหมาะสมกับการเล่นของตัวเองครับ

     ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/financial-leverage-forex-599/?/

    สิ่งที่ผู้เทรด Forex จำเป็นต้องทำ

  • on Thursday, May 16, 2013
  • เป็นที่เชื่อกันว่า มากกว่า 50% ของผู้ที่เล่น Forex นั้นขาดทุนในระยะยาว แต่ก็ยังคงมีนักเล่น Forex หน้าใหม่จำนวนมาก กระะโดดเข้ามาในตลาด Forex ทำการซื้อขาย อย่างไร้หลักการ และขาดทุนกลับไป เป็นที่หน้าแปลกใจที่ส่วนใหญ่ของ ผู้เทรดที่ขาดทุนนั้น ทำการเทรดเหมือนพนัน (ไม่ใช่การลงทุน) เงินทุนของพวกเขา เข้าไปในตลาด Forex โดยไม่ได้มีการตรวจสอบกับหลักการเลย ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์ หรือเป็นผู้เริ่มต้น กับตลาด Forex มีสิ่งที่จำเป็น "ต้องทำ" ในการเข้าเทรด Forex เพื่ออบริหารความเสี่ยงอย่างฉลาด และเพิ่มโอกาศในการทำกำไร

    สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 1 ลงทุนกับสมองของคุณเป็นอันดับแรก
    ถ้า คุณต้องการลงทุนในตลาด Forex อย่างจริงจัง การสร้าง ทักษะการเทรด และความรู้ เป็นสิ่งแรกที่คุณต้องทำ การเข้าสมนา Workshop, วิดีโอการสอน, การเรียนรู้ออนไลน์ หรือแม่กระทั้ง หนังสือ เพื่อช่วยให้เราเรียนรู้จากนักเทรดมืออาชีพ เรียนรู้การใช้ กราฟ ทางเทคนิค ประกอบการตัดสินใจการเข้าเทรด เรียนรู้การใช้ indicator เพื่อเป็นตัวชี้จังหวะ การเข้า และออกจากตลาด สร้างประสบการณ์ ด้วยการเทรดผ่านบัญชีจำลอง ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพ และสามารถให้คุณเริ่มต้นกับ Forex ได้อย่างราบรื่น และสามารถ ลดโอกาศในการขาดทุนได้อย่างแน่นอน

    สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 2 เริ่มต้นกับระบบเทรดที่เหมาะสม
    เป็น สิ่งที่ฉลาด และควรทำ ที่จะค้นคว้าหาข้อมูล และพิจารณา ระบบของโบรคเกอร์ทั้งหมดที่มี ก่อนที่เราจะเลือกใช้เเพื่อทำการทรดจริง ระบบของโบรคเกอร์ที่แตกต่างกันนั้นเช่น ระบบการแสดงกราฟ ระบบการเทรดอัตโนมัติ ระบบเทรดที่ได้ออกแบบมาอย่างดี
    จะช่วยให้งานของเรา น้อยลง สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีเวลา ที่จะเรียนรู้ตลาด และวางแผนกลยุทธ์ชองเราได้มากยิ่งขึ้น อีกสิ่งที่ทำให้ระบบเทรดอัตโนมัติ นั้นมีประโยชน์มาก นั้นคือ การใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการเทรดโดยใช้อารมณ์ได้

    สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 3: มีแผนการเทรดอย่างชัดเจน
    อย่าง ที่ผู้เฒ่า ผู้แก่ กล่าวไว้ว่า "การล้มเหลวในการวางแผน เป็นแผนสำหรับความล้มเหลว" การเทรดในตลาด Forex นั้น เหมือนกับการ พายเรือในทะเล คุณจะไม่สามารถไปไหนได้เลย ถ้าไม่มี เข็มทิศ และตัวนำทาง อะไรเป็นจุดประสงค์ของการเทรด? คุณคาดหวังจะได้กำไรจากการเทรดเท่าไหร่? เมื่อไหร่ถึงจะเข้าไปในตลาด? จะลงทุนเท่าไหร่? จะออกจากตลาดที่ราคาเท่าไหร่? ถ้าทั้งหมดไม่เป็นไปตามแผน จะ stop loss เมื่อไหร่? จะทนต่อความเสี่ยงได้ขนาดไหน? แผนการเทรดที่ดี อย่างน้อยควรจะตอบคำถามทั้งหมดนี้ได้ ถ้าแผนการเทรดของคุณไม่ประสบผลสำเร็จ ตรวจสอบ และแก้ไข แผนการเทรดของคุณ ค้นหาสิ่งที่ผิดพลาด แล้วเรียนรู้จากมัน

    สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 4: มีการบริหารเงินทุนที่ดี
    การ บริหารเงินทุน เป็นสิ่งที่ควบคุมความเสี่ยงของคุณ และช่วยในการตัดสินใจในการออกจากตลาด โดยให้น้ำหนักจาก โอกาศในการทำกำไร เปรียบเทียบกับ โอกาศในการขาดทุน ตัวอย่างเช่น ในสถานะการหนึ่ง ถ้าไม่เป็นไปตามแผน คุณอาจจะขาดทุน $1000 แต่ถ้าเป็นไปตามแผน คุณจะได้กำไร $500 โดยแผนนี้สำเร็จ 8 ครั้ง จากทั้งหมด 10 ครั้ง นั้นเป็นการดีกว่า การทำกำไร $1000 ถ้าเป็นไปตามแผน แต่ถ้าไม่เป็นไปตามแผนจะขาดทุน $500 โดยแผนนี้สำเร็จเพียงแค่ 1 ครั้งจากทั้งหมด 3 ครั้ง ถ้าคุณลงทุนโดยใช้เงินเก็บของคุณเอง การบริหารเงินทุนนี้ ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะโอกาศที่คุณจะพลาดการลงทุนที่ดี เนื่องจากเงินทุนของคุณมีไม่มากนั้น สูง

    สิ่งที่ผู้เทรด Forex ต้องทำ 5: ลงทุนอย่างมีวินัย
    การ เทรด Forex อย่างมีวินัย นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ความสำเร็จจากการเทรด Forex นั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพียงแค่ คุณมีแผนการเทรดที่ดีเท่านั้น อีกสิ่งที่สำคัญ และจำเป็น นั้นคืคุณต้องทำตามแผนนั้นอย่างมีวินัยด้วย เทรดตามแผน และไม่เทรดตามอารมณ์ ถึง จะขาดทุน หรือกำไร ความโลภอาจทำให้กำไรของคุณหายไป ในขณะที่ ความกลัว อาจะทำให้คุณพลาดโอกาศที่ดี ในตลาดได้เช่นกัน

    กำไรจากตลาด Forex นั้นสูง และ เร็ว กว่าการเทรดชนิดอื่นมาก อย่างไม่ต้องสงสัย การเข้าถึงตลาดนั้นก็ไม่มีข้อจำกัด, ความลื่นไหลของตลาด, เป็นการลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนมาก ด้วย อัตรา leverage ที่สูง และ ไม่มีข้อจำกัดในการ Short Selling ทำให้ตลาด Forex สามารถทำกำไรได้สูงมาก จำไว้เสมอว่า การวางแผนการลงทุนอย่างฉลาด โดยการลงทุนให้กับตัวเงก่อน คุณจะได้รางวัลอย่างงามที่ปลายทาง

    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-597/?/

    Forex คืออะไร

  • on Wednesday, May 15, 2013
  • ตลาด Forex (Foreign exchange market) คือตลาดกลางสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ ทั่วโลก แต่เดิมตลาด Forex นั้นมีไว้สำหรับการซื้อขายในเฉพาะกลุ่ม ธนาคาร สถาบันทางการเงิน หรือหน่วยงานของรัฐ แต่เมื่ออินเตอร์เน็ตเริ่มมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย จึงเริ่มมีการพัฒนาระบบให้คนทั่วไป สามารถเข้ามาซื้อขายในตลาด Forex โดยใช้อินเตอร์เน็ตส่งคำสั่ง ซื้อขาย ผ่านทางโบรกเกอร์ได้

    ตลาด Forex นั้นเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก มีตลาดใหญ่อยู่ที่ นิวยอร์ค ญี่ปุ่น ยุโรป และ ออสเตรเลีย การที่มีตลาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยแต่ละพื้นที่มีเวลาเหลื่อมกัน ทำให้เสมือนว่าตลาด Forex นั้นเปิด และมีการซื้อขายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในประเทศไทยแล้ว ตลาด Forex เปิดทำการตั้งแต่ตี 4 ของเช้าวันจันทร์ จนถึง ตี 4 เช้าวันเสาร์ หรือก็คือ 24 ชม ยกเว้นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ นั้นเอง ปัจจุบันตลาด Forex นั้นมีมูลค่าการซื้อขายต่อวัน สูงถึงประมาณ 3.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน

    ปัจจุบัน กฎหมายประเทศไทย ยังไม่อนุญาต ให้สถาบันทางการเงิน เปิดบริการเป็นโบรกเกอร์เพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้ามาซื้อขายในตลาด Forex ได้ แต่ในต่างประเทศหลายประเทศ การเข้ามาซื้อขายเงินตราในตลาด Forex ผ่านโบรกเกอร์ เป็นเรื่องที่เปิดกว้าง และสามารถทำได้มาหลายปีแล้ว โดยผู้ลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้ ถึงแม้จะมีทุนเริ่มต้นเพียงแค่ 1$ เท่านั้น


    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-601/?/

    รายละเอียดโปรเจ็ค Rebate สูงสุด 60% ต่อบัญชี

    0
  • on
  • รายละเอียดโปรเจ็ค Rebate สูงสุด 60% ต่อบัญชี เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับสมาชิก ที่สมัครเทรดต่อจาก Link  ของบอร์ด จึงมีโครงการคืนค่าคอมมิชชั่นสูงสุด 60% ต่อบัญชี

    - สมัครบัญชีเทรด Forex กับโบรกเกอร์ Exness คลิกขั้นตอนการสมัคร



    โดย ในแต่ละเดือน Admin จะทำการตรวจสอบยอดคอมมิชชั่นของแต่ละบัญชีที่สมัคร Link ต่อจากบอร์ด และทำการโอนเงิน Rebate ตามจำนวน เข้าสู่บัญชีของท่านโดยอัตโนมัติ ซึ่ง Admin จะแจ้งให้สมาชิกทราบทุกสิ้นเดือนต่อไป

    หมายเหตุ :
    - ยอดการโอน Rebate แต่ละบัญชีต้องมากกว่า 1$
    - สมาชิกต้องโพสแจ้งบัญชีที่กระทู็้นี้ http://siammetatrader.com/read-htm-tid-86.html
    - เราจะตรวจสอบและโอนยอดเงินจากบัญชีที่โพสแจ้งบัญชีเทรด Forex เท่านั้น

    ประกาศ ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2555 




    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://siammetatrader.com/

    การสมัครเปิดบัญชีซื้อขาย (เทรด forex) กับ EXNESS

    0
  • on
  • ขั้นตอนการสมัครเปิดบัญชีซื้อขาย (เทรด forex) กับ EXNESS

    1. คลิกที่ลิงค์สมัครด้านล่าง สมัครต่อจาก Admin เพื่อรับโบนัสคืนเงิน Rebate สูงสุดถึง 60% ต่อบัญชี

    เปิดบัญชีเทรด Forex Exness เปิดบัญชีทันที

    2. คลิกเปิดบัญชีการซื้อขาย ตามรูปภาพประกอบ


    3. เลือกเปิดบัญชีเทรด Forex ขอแนะนำ 2 แบบคือ แบบ Cent (ไม่มีโบนัสการฝาก) และ Mini (มีโบนัสการฝากทุกครั้ง) ตามรูปภาพประกอบ


    4. กรอกรายละเอียดต่างๆ ต้องเป็นข้อมูลจริง ตามรูปภาพและคำบรรยาย


    5. ใส่รหัสตัวอักษรเพื่อยืนยันการเปิดบัญชีเทรด Forex ที่ได้จากอีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์ ตามรูปภาพประกอบ


    6. เลือกตั้งค่าความปลอดภัยให้กับบัญชีเทรด Forex ของเรา ใช้สำหรับการทำธุรกรรมต่างๆ ในการฝาก - ถอนเงิน เข้าสู่บัญชีเทรด Forex แนะนำให้เลือก แบบที่ 2 ความปลอดภัยปานกลาง เพราะรหัสทุกรหัสที่ Exness จะถูกส่งเข้าเบอร์โทรศัพท์ตามเบอร์ที่เรากรอกไว้ตอนสมัครเปิดบัญชี


    7. สร้างรหัสผ่านเพื่อใช้ในการเข้าสู่ MT4 ในการเทรด Forex


    8. เลือกรับโบนัสพิเศษสำหรับเฉพาะผู้เปิดบัญชีเทรด Forex แบบ Mini เท่านั้น


    9. เป็นอันเสร็จสิ้นการเปิดบัญชีเทรด ซื้อขาย Forex กับ Exness สำเร็จ


    10. Exness จะส่งข้อมูลเอกสารจำนวน 2 ฉบับเข้าสู่อีเมล์ของเรา ตามภาพประกอบด้านล่าง








    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://siammetatrader.com/

    มารู้จักโบรเกอร์ Exness สำหรับเทรด Forex กันเถอะ!

    0
  • on
  • EXNESS ได้รับการก่อตั้งขึ้นปี 2008 ในเมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย



    Exness มีความความซื่อสัตย์ยุติธรรม การเปิดเผย โปร่งใส และยังได้รับใบรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 รวมถึงได้รับรางวัลโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย ปี 2012 โบรกเกอร์ Forex ดีเด่นในรัสเซีย 2011 โบรกเกอร์ Forex มาตรฐานดีเด่นแห่งเอเชีย 2012 โบรกเกอร์ Forex ดีเด่นในรัสเซีย 2012 โบรกเกอร์ Forex ดีเด่นในตะวันออกกลาง 2012

    Exness ให้บริการซื้อขายออนไลน์ Forex คู่สกุลเงินรวม 134 คู่ รวมทั้ง CFD ในตลาดหุ้น และ CFD ในฟิวเจอร์ สามารถกำหนด Leverage ได้สูงสุดถึง 1:2000 ซึ่งมากกว่าโบรเกอรือื่นถึง 5 เท่า

    Exness รองรับระบบการชำระเงินฝาก-ถอนผ่าน เงินจะเข้าในบัญชีเทรดของคุณทันที
    ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์
        - Skrill (Moneybookers)
        - Liberty Reserve
        - Webmoney
        - CashU
        - Pecunix
        - Perfect Money
        - C-Gold
        - MoneyMail
        - RBK Money
        - QIWI
    บัตรเครดิต Visa และ MasterCard
    สำหรับในประเทศไทยสามารถใช้บริการได้ผ่านทาง เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือธนาคารออนไลน์




    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://siammetatrader.com/